ถั่วเหลือง
- ชื่อ
- ส่วนของพืชที่ใช้
- การกระจายตัวทางภูมิศาสตร์/แหล่งที่มา
- ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
- การเพาะปลูก
- สรรพคุณและการใช้สมุนไพรพื้นฐานตามภูมิปัญญาไทยด้านเครื่องสำอาง
- สารเคมีที่เป็นองค์ประกอบ
- สารออกฤทธิ์ หรือ สารสำคัญ
ชื่อวิทยาศาสตร์
Glycine max (L.) Merr.
ชื่อวงค์
FABACEAE
ชื่อสมุนไพร
ถั่วเหลือง
ชื่ออังกฤษ
Soybean
ชื่อพ้อง
Dolichos sofa L.
Dolichos soja L.
Glycine angustifolia Miq.
Glycine gracilis Skvortsov
Glycine hispida (Moench) Maxim.
Glycine max subsp. max (L.) Merr.
Phalseolus max L.
Phaseolus max L.
Soja angustifolia Miq.
Soja hispida Moench
Soja japonica Savi
Soja max (L.) Piper
Soja soja H.Karst.
Soja viridis Savi
ชื่อท้องถิ่น
ถั่วพระเหลือง, ถั่วแระ, ถั่วเหลือง, มะถั่วเน่า
ชื่อ INCI
GERMINATED GLYCINE MAX SEED EXTRACT
GLYCINE MAX ADVENTITIOUS ROOT EXTRACT
GLYCINE MAX CALLUS CULTURE
GLYCINE MAX CALLUS CULTURE EXTRACT
GLYCINE MAX CALLUS EXTRACT
GLYCINE MAX EXTRACT
GLYCINE MAX FIBER
GLYCINE MAX FLOWER/LEAF/STEM JUICE
GLYCINE MAX LEAF CELL EXTRACT
GLYCINE MAX LEAF EXTRACT
GLYCINE MAX OIL
GLYCINE MAX PHYTOPLACENTA CONDITIONED MEDIA
GLYCINE MAX PHYTOPLACENTA EXTRACT
GLYCINE MAX POLYPEPTIDE
GLYCINE MAX PULP
GLYCINE MAX ROOT EXTRACT
GLYCINE MAX SEED EXTRACT
GLYCINE MAX SEED POWDER
GLYCINE MAX SEED PROTEIN
GLYCINE MAX SEEDCAKE EXTRACT
GLYCINE MAX SEEDCOAT EXTRACT
GLYCINE MAX SPROUT EXTRACT
GLYCINE MAX SYMBIOSOME EXTRACT
GLYCINE SOJA GERM EXTRACT
HYDROLYZED SOY PULP FERMENT
HYDROLYZED SOYBEAN ADVENTITIOUS ROOT EXTRACT
HYDROLYZED SOYBEAN CALLUS EXTRACT
HYDROLYZED SOYBEAN EXTRACT
ส่วนของพืชที่ใช้
การกระจายตัวทางภูมิศาสตร์/แหล่งที่มา
มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีนและแพร่กระจายสู่ประเทศเกาหลี ญี่ปุ่น ยุโรปและอเมริกา ในประเทศไทยเพาะปลูกมากในเขตภาคกลางตอนบน ภาคเหนือตอนล่างและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (4)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ไม้ล้มลุก อายุปีเดียว สูง 0.5 - 1 ม. ลำต้นตั้งตรง หนาเป็นสัน มีขนแข็งหยาบ สีน้ำตาล ใบเป็นใบประกอบแบบขนนกมีใบย่อย 3 ใบ ใบย่อย รูปไข่ รูปเกือบกลม หรือรูปรีแกมรูปใบหอก โคนใบรูปลิ่มหรือมน ปลายใบเรียวแหลมหรือมีติ่งหนาม หูใบ รูปไข่ปลายแหลม ช่อดอกแบบช่อกระจะ ใบประดับ รูปใบหอก กลีบเลี้ยง มีขนแข็งหยาบและขนแข็งเอน กลีบดอกสีขาวหรือสีม่วงแกมสีแดง ผลเป็นฝักมีขนเมล็ด รูปไข่ มีสีขาว สีเขียวแกมเหลือง หรือสีดำปนน้ำตาล มี 3- 5 เมล็ด (3)
การเพาะปลูก
- สถาพพื้นที่ พื้นที่ดอน หรือที่ลุ่มไม่มีน้ำท่วมขัง ความสูงจากระดับน้ำทะเลไม่ควรเกิน 800 ม. ความลาดเอียงไม่เกินร้อยละ 20 ห่างไกลจากแหล่งมลพิษ
- ลักษณะดิน ดินร่วน ดินร่วนเหนียว ดินเหนียวหรือดินร่วนเหนียวปนทราย ความสมบูรณ์ปานกลาง มีอินทรีย์วัตถุไม่ต่ำกว่าร้อยละ 1.5 ฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์มากกว่า 12 ส่วนในล้านส่วน โพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์มากกว่า 50 ส่วนในล้านส่วน การระบายน้ำและการถ่ายเทอากาศดี ระดับหน้าดินลึก 20 - 25 ซม. ค่าความเป็นกรด-ด่างระหว่าง 5.5 - 7.0
- สภาพภูมิอากาศ อุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโต 15 - 35 องศาเซลเซียส ปริมาณน้ำฝนกระจายสม่ำเสมอ 1,000 – 1,500 มล./ปี ในฤดูปลูกควรมีปริมาณน้ำฝน 300 - 400 มล. มีแสงแดดจัด
- แหล่งน้ำ ในสภาพนา ควรมีน้ำเพียงพอสำหรับใช้เมื่อจำเป็น ในสภาพไร่ ส่วนใหญ่อาศัยน้ำฝน ต้องเป็นน้ำสะอาดปราศจากสารอินทรีย์และสารอนินทรีย์ที่มีพิษปนเปื้อน
- การคัดเลือกพันธุ์ ผลผลิตสูงและมีคุณภาพดี ตรงตามความต้องการของตลาด ต้านทานโรค เจริญเติบโตเหมาะสมกับสภาพดินฟ้าอากาศ
- การเก็บเกี่ยว เก็บเกี่ยวตามช่วงอายุของพันธุ์ที่ปลูก หรือเมื่อร้อยละ 95 ของฝักเปลี่ยนสี เมล็ดถั่วเหลืองมีความชื้นร้อยละ 15 – 17 นวดด้วยเครื่องความเร็วรอบ 350 – 500 รอบต่อนาที นำเมล็ดที่นวดไปตากแดด 1 – 3 แดด เพื่อลดความชื้นในเมล็ดหรือประมาณร้อยละ 12
สรรพคุณและการใช้สมุนไพรพื้นฐานตามภูมิปัญญาไทยด้านเครื่องสำอาง
เมล็ด ช่วยรักษาแผล (3)
สารเคมีที่เป็นองค์ประกอบ
สารกลุ่มไอโซฟลาโวน (isoflavones) ได้แก่ daidzein, genistein,glycitein, daidzin, genistin, glycitin, acetyldaidzin, acetylgenistin, acetylglycitin, malonyldaidzin, malonylgenistinและmalonylglycitin(8-12)
สารประกอบฟีนอลิก (phenolic compounds) ได้แก่ syringic acid, ferulic acid และ sinapic acid(8, 12-13)
สารกลุ่มไอโซฟลาโวน (isoflavones)
สารประกอบฟีนอลิก (phenolic compounds)
สารออกฤทธิ์ หรือ สารสำคัญ
- สารออกฤทธิ์ลดริ้วรอย ได้แก่สารกลุ่ม isoflavones (7)
- สารออกฤทธิ์ทำให้ผิวขาว ได้แก่ สารกลุ่ม isoflavones (14)
- สารออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ได้แก่ สารกลุ่ม isoflavones (daidzein, genistein, glycitein, daidzin, genistinและglycitin) (15-16)
- สารออกฤทธิ์กันแดด ได้แก่ สารกลุ่ม isoflavones (17-19)
แนวทางการควบคุมคุณภาพ (วิเคราะห์ปริมาณสารสำคัญ)
การวิเคราะห์สาร isoflavones
การวิเคราะห์ด้วย High Performance Liquid Chromatographyมีตัวอย่างการศึกษาดังนี้(12)
Stationary Phase: Novapak C18 reversed-phase HPLC column (150 mm × 3.9 mm i.d.)ต่อกับ Novapak C18 stationary phase guard column และ 0.5 µm
pre-column filter (Vydac, Hesperia, CA)
Mobile phase: 1% (v/v) acetic acid in water (solvent A) และ100% acetonitrile (solvent B)
Detection: ตรวจสอบด้วย PDA ภายใต้ความยาวคลื่น 240 - 400 nm
Flow rate: 0.6 mL/min
Injection volume: 10 µL
การศึกษาทางคลินิก
1. การศึกษาเกี่ยวกับผิวหน้า
1.1 บำรุงผิวหน้า ลดความหมองคล้ำของผิวหน้า (F004)
การศึกษาทางคลินิกในอาสาสมัครผู้หญิงจำนวน 68 คน อายุ 30 - 61 ปี โดยแบ่งออกเป็นกลุ่มที่ใช้ครีมให้ความชุ่มชื้นที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากถั่วเหลือง(Aveeno® Positively RadiantTM Daily Moisturizer) ประกอบด้วย stabilized soy extracts และserine protease inhibitors (soybean trypsin inhibitor [STI] และ Bowman-Birk protease inhibitor [BBI])(ไม่ระบุวิธีการเตรียมและความเข้มข้นของสารสกัดและวิธีการใช้) เปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม โดยทาครีมบริเวณใบหน้า 2 ครั้งต่อวัน เช้าและเย็น เป็นระยะเวลา 12 สัปดาห์ ผลการทดสอบพบว่ากลุ่มที่ใช้ครีมให้ความชุ่มชื้นที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากถั่วเหลืองมีผลในการปรับปรุงลักษณะของผิวที่เข้มเป็นหย่อม (mottled pigmentation) ความหมองคล้ำ (dullness) ริ้วรอยร่องตื้น (fine line) โครงสร้างผิวโดยรวม (overall texture) โทนสีผิวโดยรวม(overall skin tone) และลักษณะโดยรวมของผิว (overall appearance) เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม โดยให้ผลในช่วงสัปดาห์ที่ 2 ถึงสัปดาห์ที่ 12 ของการทดสอบ ยกเว้นผลต่อการปรับปรุงความหมองคล้ำที่เริ่มเห็นผลในช่วงสัปดาห์ที่ 4 ของการทดสอบและไม่พบอาการข้างเคียงใด ๆ จากผลการทดสอบสรุปได้ว่าครีมให้ความชุ่มชื้นที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากถั่วเหลืองมีผลในการปรับปรุงสภาพผิวและมีความปลอดภัยในการใช้ (5)
การศึกษาทางคลินิกของผลการใช้ครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดถั่วเหลืองในการลดอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้เลเซอร์Nd: YAG laser (เลเซอร์สำหรับรักษาความผิดปกติของเม็ดสีบนผิวหนังใช้ลบรอยสักทั่วไป หรือกำจัดขน ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการข้างเคียง เช่น อาการบวม แดง ระคายเคือง หรืออาการผิวไหม้ เป็นต้น) ในอาสาสมัครผู้หญิงจำนวน 45 คน อายุ 25 - 40 ปี ที่ไม่มีโรคทางผิวหนังและผื่นภูมิแพ้ผิวหนังโดยแบ่งออกเป็นกลุ่มที่ใช้ครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากถั่วเหลือง (Charsire Biotechnology Corporation in Tainan, Taiwan)(ไม่ระบุวิธีการเตรียมและความเข้มข้นของสารสกัดและวิธีการใช้) เปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม หลังจากที่อาสาสมัครแต่ละกลุ่มผ่านการใช้เลเซอร์Nd: YAG laser ทุก 2 สัปดาห์เป็นจำนวน 3 รอบ ผลการทดสอบพบว่าหลังจากอาสารสมัครผ่านการใช้เลเซอร์Nd: YAG laser ทำให้เกิดอาการอักเสบในอาสาสมัครทุกคน และพบว่ากลุ่มที่ใช้ครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดถั่วเหลืองส่งผลทำให้การเกิดรอยแดง รอยจุด ริ้วรอย ขนาดของรูขุมขน ลดลง จากผลการทดสอบสรุปได้ว่าครีมที่มีส่วนผสมของสารสกัดถั่วเหลืองมีผลช่วยลดอาการข้างเคียงจากการใช้เลเซอร์ Nd: YAG laser และยังมีผลช่วยในการฟื้นฟูสภาพผิว (6)
2 การศึกษาเกี่ยวกับผิวกาย
2.1 ลดริ้วรอย (S007)
การศึกษาทางคลินิกในอาสาสมัครผู้หญิงสุขภาพผิวดี 21 คน อายุ 55 ± 6 ปี เกี่ยวกับผลของสารสกัดเอทานอลถั่วเหลือง (ไม่ระบุวิธีการสกัด) ประกอบด้วย 10 - 12%isoflavonesต่อการเพิ่มจำนวน dermal papilla ส่วนของหนังแท้ที่ยึดติดกับหนังกำพร้า ซึ่งจำนวนและความยาวของ papilla จะลดลงเมื่ออายุมากขึ้น โดยทาครีมที่มีส่วนผสมของ 2% สารสกัดถั่วเหลืองบริเวณท้องแขน 2 ครั้ง/วัน เป็นเวลา 2 สัปดาห์ เปรียบเทียบกับกลุ่มยาหลอก ประเมิน papilla index โดยส่องดูผิวหนังภายใต้กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน พบว่าครีมสารสกัดถั่วเหลืองมีผลเพิ่มจำนวน dermal papilla ได้(7)
2.2 กันแดด (S008)
การศึกษาทางคลินิกในอาสาสมัครสุขภาพดีจำนวน 6 คน อายุ 31± 9 ปี เกี่ยวกับผลของน้ำมันจากจมูกถั่วเหลือง (soybean germ oil)(Italgreen-oil, a division of Casa Olearia; Verona, Italy) ต่อการป้องกันรังสี UVB ที่เหนี่ยวนำให้ผิวหนังเกิดรอยแดง (erythema) โดยให้อาสาสมัครได้รับรังสี UVB บริเวณแขน ขนาด 1 ซม.2หลังจากนั้นให้ทาน้ำมันจากจมูกถั่วเหลือง 200 ไมโครโมล โดยใช้ Hill Top chamberเปรียบเทียบกับอนุพันธ์ของวิตามินอีtocopherol acetateประเมินผลการทดสอบโดยวัดการยับยั้งการเกิดรอยแดง (% inhibition erythema) ผลการทดสอบพบว่าน้ำมันจากจมูกถั่วเหลืองมีผลในการยับยั้งการเกิดรอยแดงมีค่า % inhibition erythema เท่ากับ 46.8 % ในขณะที่ tocopherol acetateมีค่า % inhibition erythema เท่ากับ 21.5% (8)
การศึกษาฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา
1 การศึกษาเกี่ยวกับผิวกาย
1.1 ฤทธิ์ทำให้ผิวขาว (S001)
การทดสอบสารอนุพันธ์ของ isoflavonesได้แก่ 8′-hydroxydaidzein (8′-ODI) และ 3′-hydroxydaidzein (3′-ODI) ที่แยกได้จากถั่วเหลืองหมัก โดยใช้ถั่วเหลืองหมักหรือเต้าเจี้ยวเกาหลี (doenjang) ที่หมัก 5 ปี ปริมาณ 100 ก. สกัดด้วย n-hexane3 ลิตร นาน 3 ชั่วโมง ทำการสกัด 3 ครั้ง สกัดต่อด้วยเมทานอลใน Soxhlet apparatus นาน 6 ชั่วโมง นำไปกรอง และนำไประเหยแห้งโดยการลดความดัน ได้สารสกัด doenjang extract 15.8 ก. แยกวิเคราะห์สารด้วย medium-pressure liquid chromatography(MPLC) systemและทำการทดสอบฤทธิ์ในการยับยั้งการสร้างเม็ดสีของผิวหนังในเซลล์มะเร็งผิวหนัง B16 murine melanomaในหลอดทดลองพบว่า 8′-ODI และ 3′-ODI 20 ไมโครโมลลดการสร้างเม็ดสีได้ 22.2% และ 46.7% เปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม kojic acid 703.6 ไมโครโมลลดการสร้างเม็ดสีได้39.8% ตามลำดับ ผ่านกลไกยับยั้งเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเม็ดสี tyrosinaseรวมทั้ง tyrosinase protein 1, tyrosinase protein 2 และ microphthalmia - associated transcription factor ส่งผลให้การสร้างเม็ดสีลดลง (14)
1.2 ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ (S006)
การทดสอบฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระในหนูแรทที่ให้ออกกำลังกายโดยการวิ่งบนสายพาน โดยแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มแรก ไม่ให้สาร isoflavonesและไม่ออกกำลังกาย กลุ่มที่ 2ไม่ให้สาร isoflavonesและออกกำลังกาย กลุ่มที่ 3ให้สาร isoflavonesและไม่ออกกำลังกายกลุ่มที่ 4ให้สาร isoflavonesและออกกำลังกาย หนูแรทกลุ่มที่ออกกำลังกายให้วิ่งบนสายพาน วันละ 30 นาที 5 วันต่อสัปดาห์ เป็นระยะเวลา 5 สัปดาห์ หนูแรทกลุ่มที่ให้สาร isoflavonesให้ผสมลงไปในอาหาร (isoflavones; daidzein6.6มก./ก., genistein 2.6 มก./ก., glycitein 4.7มก./ก., daidzin 166.3มก./ก., genistin 33.7มก./ก. และglycitin 120.3 มก./ก.) ผลการทดสอบพบว่าหนูที่ออกกำลังกายและให้สาร isoflavonesมีไขมันหน้าท้องน้อยกว่ากลุ่มที่ออกกำลังกายแต่ไม่ให้สาร isoflavonesและทั้งกลุ่มที่ออกกำลังกายและได้รับสาร isoflavonesมีผลในการลดระดับ triglyceride (TG) ในพลาสมา กลุ่มที่ให้สาร isoflavonesและออกกำลังกาย มีค่า TG ลดลงต่ำกว่ากลุ่มที่ไม่ให้สารisoflavonesและไม่ออกกำลังกาย 30.9% อย่างไรก็ตามไม่มีความแตกต่างของค่า cholesterol, HDL-C และอัตราส่วนของ cholesterol/HDL-C การวัดการต้านอนุมูลอิสระโดยการวัด thiobarbituric acid reactive substances (TBARS) กลุ่มที่ไม่ให้สาร isoflavonesและออกกำลังกายมีค่า TBARS สูงกว่าทุกกลุ่ม สำหรับกลุ่มที่ให้สารisoflavonesและออกกำลังกายพบว่ามีผลในการปรับปรุงค่า TBARS เท่าระดับของกลุ่มที่ให้สาร isoflavonesและไม่ออกกำลังกาย กลุ่มที่ให้สารisoflavonesและออกกำลังกายมีค่า superoxide dismutase (SOD) และ catalase สูงกว่ากลุ่มที่ไม่ให้สารisoflavonesและออกกำลังกาย จากผลการทดสอบสรุปได้ว่าหนูกลุ่มที่ได้รับสาร isoflavonesมีผลในการกระตุ้นกระบวนการยับยั้งอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นในหนูแรทที่ออกกำลังกาย ลด TBARS และมีผลในการยับยั้งการสะสมของไขมันและค่า TG(15)
ทดสอบฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของสารกลุ่ม isoflavonesจากถั่วเหลือง เตรียมสารสกัดโดยใช้ถั่วเหลืองแห้ง 3 กก. สกัดด้วยเอทานอล 70% ทำการสกัด 3 ครั้ง ที่ 60 องศาเซลเซียส นำไประเหยแห้งได้สารสกัด 78 ก. ทดสอบฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระพบว่าสาร isoflavonesมีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระจากการวัดด้วยวิธี low-density lipoprotein (LDL) oxidation, the ferric reducing-antioxidant power (FRAP) และ anti-DPPH free radical assays (16)
1.3 ฤทธิ์กันแดด (S008)
การทดสอบฤทธิ์กันแดดของสารกลุ่ม isoflavonesที่แยกได้จากจากกากถั่วเหลืองที่เหลือจากการน้ำมันถั่วเหลืองโดยใช้กากถั่วเหลือง50 ก. ผสมในน้ำกลั่น-เอทานอล (150 มล.1:1 v/v) เขย่าเป็นเวลา 2 ชั่วโมง นำไปปั่นที่ 6000 rpm นาน20 นาทีที่ 25 องศาเซลเซียส นำส่วน supernatant กรองผ่านกระดาษกรอง และนำไปแยกสารโดยใช้Diaion HP-20 adsorbent เป็น stationary phase และน้ำผสมเอทานอลเป็น mobile phase ได้ส่วนของสารสกัด3ส่วนซึ่งประกอบด้วย malonylglucosideisoflavones, isoflavone glucosides, และ aglyconeisoflavonesผสมกับ acetylglucosideisoflavones ตามลำดับ และนำส่วนของสารสกัดที่ 3 ไปแยกต่อโดยใช้ Yamazen Hi-FlashTM silica gel column และใช้ mobile phase เป็น n-hexane-isopropanol-ethanol (8:9:1, v/v/v) เพื่อแยกส่วน aglycones ออกจาก acetylglucosidesและเมื่อวิเคราะห์ส่วนของสารสกัดทั้งหมดที่ได้ด้วย HPLCพบว่าประกอบด้วยisoflavonesกลุ่มmalonylglucosides (malonyldaidzin, malonylgenistin, malonylglycitin), glucosides (daidzin, genistin, glycitin), acetylglucosides (acetyldaidzin,acetylgenistin, acetylglycitin), และaglycones (daidzein, genistein, glycitein) ตามลำดับ การทดสอบฤทธิ์กันแดดต่อเซลล์ human immortalized keratinocytes (HaCaT cells)ของส่วนของสารสกัดที่ประกอบด้วยสารกลุ่ม isoflavones ที่ได้ในหลอดทดลองพบว่าส่วนของสารสกัดทั้งหมดมีฤทธิ์ปกป้องการถูกทำลายของเซลล์ผิวหนัง (keratinocyte) ของมนุษย์ที่สัมผัสรังสี ultraviolet B (UVB) โดยมีผลลดการตายของเซลล์ keratinocyte และมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระโดยยับยั้งการปล่อย hydrogen peroxide (H2O2) ภายในเซลล์ นอกจากนี้ส่วนของสารสกัดที่มีaglycones, glucosides, และ acetylglucosideisoflavonesยังมีฤทธิ์ยับยั้ง c-Jun N-terminal protein kinases (JNK) phosphorylation ส่งผลในการชะลอการแก่ของผิวที่เกิดจากรังสี UV (17)
การทดสอบฤทธิ์กันแดดในหนูเม้าส์โดยให้ทาส่วนของสารสกัดที่ประกอบด้วยaglyconeisoflavonesผสมกับ acetylglucosideisoflavonesแล้วให้สัมผัสรังสี UVB (150 mJ/cm2 UVB irradiation) เป็นระยะเวลา 7 วัน เก็บตัวอย่างผิวหนังเพื่อประเมินลักษณะทางจุลกายวิภาคศาสตร์ผลการทดสอบพบว่าส่วนของสารสกัดดังกล่าวมีฤทธิ์ลดการแยกออกจากกันของเซลล์ผิวหนังหรือการหลุดลอกของผิวหนัง (desquamation) ลดการสูญเสียน้ำผ่านชั้นผิวหนัง (transepidermal water loss; TEWL) ลดการเกิดผื่นแดงบริเวณผิวหนัง และลดการหนาตัวของผิวหนัง (epidermal thickness) ในหนูเม้าส์ที่ถูกชักนำให้ผิวหนังถูกทำลายด้วยการสัมผัสรังสี UVB นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระโดยเพิ่มการทำงานของเอนไซม์ต้านอนุมูลอิสระ catalase และยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ cyclooxygenase-2 ในกระบวนการอักเสบ และพบว่าในหนูที่ได้รับการทาส่วนของสารสกัดดังกล่าวบริเวณผิวหนังก่อนสัมผัสรังสี UVB มีผลลดการแสดงออกของ proliferating cell nuclear antigen (PCNA) ที่เพิ่มสูงขึ้นเพื่อซ่อมแซม DNA เมื่อผิวหนังถูกทำลายจึงสรุปได้ว่าส่วนของสารสกัดที่มีสาร isoflavonesมีฤทธิ์ป้องกัน DNA จากการถูกทำลายด้วยรังสี UVB (18)
การทดสอบฤทธิ์ยับยั้งการแสดงออกของ matrix metalloproteinases (MMPs) ที่เพิ่มสูงขึ้นเมื่อสัมผัสรังสี UV ซึ่งทำให้เกิดการทำลายของคอลลาเจนในผิวและเป็นสาเหตุของการเกิดริ้วรอย โดยพบว่า 6,7,4′- trihydroxyisoflavone สารเมตาบอไลต์หลักของ daidzein ที่แยกได้จากถั่วเหลือง (ไม่ระบุวิธีการสกัด)มีฤทธิ์ยับยั้ง matrix metalloproteinases1 ในเซลล์ผิวหนังไฟโบรบลาสต์ของมนุษย์(normal human dermal fibroblasts; NHDF) ที่สัมผ้สรังสี UV ในหลอดทดลอง (19)
การศึกษาทางพิษวิทยาและความปลอดภัย
การศึกษาความปลอดภัย
การทดสอบทางคลินิกในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนที่มีภาวะน้ำตาลในเลือดสูงเล็กน้อย 180 คน แบ่งเป็น 3 กลุ่ม โดยกลุ่มแรก (soy group) ให้ soy protein 15 ก. และ isoflavones100 มก. กลุ่มที่ 2 (iso group) ให้ milk protein 15 ก. และ isoflavones 100 มก. และกลุ่มสุดท้าย (placebo group) ให้ milk protein 15 ก. เป็นเวลา 6 เดือน พบว่ากลุ่มแรกผู้ป่วยมีน้ำหนักลดลงเล็กน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับอีกสองกลุ่ม และพบว่าในแต่ละกลุ่มมีผู้ป่วยบางรายแสดงอาการข้างเคียง เช่น อาการไม่สบายท้อง เจ็บคอ และเกิดสิว เป็นต้น (20)
การศึกษาความเป็นพิษวิทยา
ทดสอบความเป็นพิษในไก่ไข่แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม โดยให้สาร daidzeinขนาด0, 10, 50 และ 100 มก./กก. ต่อวัน เป็นเวลา 12 สัปดาห์ พบว่าไม่ก่อให้เกิดความผิดปกติใดๆ (21)
ทดสอบความเป็นพิษในหนูแรทโดยให้ methylated soybean protein (MSP) ขนาดสูง 2.5, 5 และ 10 ก./กก.นน.ตัว ครั้งเดียว หรือให้สาร MSP ขนาด 0.5 และ 2.5 ก./กก.นน.ตัว วันละครั้ง เป็นเวลา 28 วัน พบว่าไม่ก่อให้เกิดความเป็นพิษต่อตับและไต (22)
ข้อห้ามใช้
ไม่ควรใช้ในผู้ที่แพ้ถั่วเหลืองผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองและสารสกัดจากถั่วเหลือง (23-25)
ข้อควรระวัง
ควรระมัดระวังสำหรับผู้ที่แพ้ถั่วเหลือง ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง และสารสกัดจากถั่วเหลือง (23-25)
อาการไม่พึงประสงค์
อาการแพ้ที่อาจเกิดขึ้นเมื่อรับประทาน ได้แก่ อาการทางผิวหนัง ทำให้ผิวหนังอักเสบ เกิดอาการคัน อาการต่อระบบทางเดินหายใจ คัดจมูก อาการต่อระบบทางเดินอาหาร และอาจเกิดอาการแพ้รุนแรงเฉียบพลัน (anaphylaxis) ได้ในบางราย (23-25)
ขนาดที่แนะนำ (ข้อมูลจากการศึกษาทางคลินิก)
ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผิวกาย
ครีมที่มีส่วนผสมของ 2 % สารสกัดเอทานอลจากถั่วเหลือง ประกอบด้วย 10 - 12% isoflavonesโดยทาครีมวันละ 2 ครั้ง ช่วยในการบำรุงผิว (7)
สิทธิบัตร
DIP (THAILAND-TH)
DIP (THAILAND-EN)
USPTO (USA)
สรุป
ถั่วเหลืองประกอบด้วยสารสำคัญกลุ่ม isoflavonesนอกจากการใช้เป็นอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ยังมีงานวิจัยที่เกี่ยวกับการใช้ในทางเครื่องสำอาง การศึกษาทางคลินิก การศึกษาเกี่ยวกับผิวหน้า บำรุงผิวหน้าลดความหมองคล้ำของผิวหน้าและการศึกษาเกี่ยวกับผิวกาย ช่วยลดริ้วรอย และฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา ได้แก่ ฤทธิ์ยับยั้งการสร้างเม็ดสีของผิวหนังทำให้ผิวขาว ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ และฤทธิ์ปกป้องผิวหนังจากการทำลายด้วยรังสี UVนอกจากนี้ยังมีงานวิจัยเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากจมูกถั่วเหลือง และกากถั่วเหลือง อาจเป็นประโยชน์ในการนำวัตถุดิบดังกล่าวมาใช้ เป็นข้อมูลสนับสนุนการใช้ประโยชน์ในทางเครื่องสำอางต่อไป
เอกสารอ้างอิง
1. ราชันย์ ภู่มา, สมราน สุดดี(บรรณาธิการ). ชื่อพรรณไม้แห่งประเทศไทย เต็ม สมิตินันท์ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2557. กรุงเทพฯ: สำนักงานหอพรรณไม้ สำนักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้และพันธุ์พืช กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช; 2557.
2. Glycine max (L.) Merr.The World Flora Online. [Internet]. [cited 2021 Nov 11]. Available from:http://www.worldfloraonline.org/taxon/wfo-0000181462#synonyms
3. นันทวัน บุณยะประภัศร, อรนุช โชคชัยเจริญพร(บรรณาธิการ). สมุนไพร..ไม้พื้นบ้าน (2). กรุงเทพฯ: บริษัท ประชาชน จำกัด; 2541.
4. นพพร สายัมพล, เรวัต เลิศฤทัยโยธิน, รังสฤษดิ์ กาวีต๊ะ, สนธิชัย จันทร์เปรม (บรรณาธิการ). พืชเศรษฐกิจ. กรุงเทพฯ: ภาควิชาพืชไร่นา คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, 2542:471 หน้า
6. Hsieh MC, Wu YC, Huang SH, Kuo YR, Lee SS. A single-center, randomized, double-blind, placebo-controlled clinical trial of the effectiveness of ANT1 soybean extract cream on skin recovery after Nd: YAG Laser treatment. Ann Plast Surg. 2018;80(2S Suppl 1):S26-S29. doi: 10.1097/SAP.0000000000001287.
7. Südel KM, Venzke K, Mielke H, Breitenbach U, Mundt C, Jaspers S, et al. Novel aspects of intrinsic and extrinsic aging of human skin: beneficial effects of soy extract. PhotochemPhotobiol. 2005;81(3):581-7. doi: 10.1562/2004-06-16-RA-202.
8. Bonina F, Puglia C, Avogadro M, Baranelli E, Cravotto G. The topical protective effect of soybean-germ oil against UVB-induced cutaneous erythema: an in vivo evaluation. Arch Pharm (Weinheim). 2005;338(12):598-601. doi: 10.1002/ardp.200500159.
9. Shao S, Duncan AM, Yang R, Marcone MF, Rajcan I, Tsao R. Tracking isoflavones: from soybean to soy flour, soy protein isolates to functional soy bread. J Funct Foods. 2009;119-27. doi: 10.1016/j.jff.2008.09.013.
10. Krizova L, Dadakova K, Kasparovska J, Kasparovsky T. Isoflavones. Molecules. 2019;24(6):1076. doi: 10.3390/molecules24061076.
11. Rizzo G, Baroni L. Soy, soy foods and their role in vegetarian diets. Nutrients. 2018;10(1):43. doi: 10.3390/nu10010043.
12. Riedl KM, Lee JH, Renita M, Martin SKS, Schwartz SJ, Vodovotz Y. Isoflavone profiles, phenolic content, and antioxidant activity of soybean seeds as influenced by cultivar and growing location in Ohio. J Sci Food Agric. 2007;87:1197-206. doi: 10.1002/jsfa.2795.
13. Waqas MK, Akhtar N, Mustafa R, Jamshaid M, Khan HM, Murtaza G. Dermatological and cosmeceutical benefits of Glycine max (soybean) and its active components. Acta Pol Pharm. 2015;72(1):3-11.
14. Goh MJ, Park JS, Bae JH, Kim DH, Kim HK, Na YJ. Effects of ortho-dihydroxyisoflavone derivatives from Korean fermented soybean paste on melanogenesis in B16 melanoma cells and human skin equivalents. Phytother Res. 2012;26(8):1107-12. doi: 10.1002/ptr.3682.
15. Yoon GA, Park S. Antioxidant action of soy isoflavones on oxidative stress and antioxidant enzyme activities in exercised rats. Nutr Res Pract. 2014;8(6):618-24. doi: 10.4162/nrp.2014.8.6.618.
16. Lee CH, Yang L, Xu JZ, Yeung SY, Huang Y, Chen ZY. Relative antioxidant activity of soybean isoflavones and their glycosides. Food Chem. 2005;90(4):735-41. doi: 10.1016/j.foodchem.2004.04.034.
17. Chiang HS, Wu WB, Fang JY, Chen BH, Kao TH, Chen YT, Huang CC, Hung CF. UVB-protective effects of isoflavone extracts from soybean cake in human keratinocytes. Int J Mol Sci. 2007;8(7):651-61.
18. Huang CC, Hsu BY, Wu NL, Tsui WH, Lin TJ, Su CC, Hung CF. Anti-photoaging effects of soy isoflavone extract (aglycone and acetylglucoside form) from soybean cake. Int J Mol Sci. 2010;11(12):4782-95. doi:10.3390/ijms11124782.
19. Lim TG, Kim JE, Lee SY, Park JS, Yeom MH, Chen H, et al. The daidzein metabolite, 6,7,4¢- trihydroxyisoflavone, is a novel inhibitor of PKCα in suppressing solar UV- induced matrix metalloproteinase 1. Int J Mol Sci. 2014;15:21419-32. doi: 10.3390/ijms151121419.
20. Liu ZM, Ho SC, Chen YM, Ho YP. A mild favorable effect of soy protein with isoflavones on body composition - a 6-month double-blind randomized placebo-controlled trial among Chinese postmenopausal women. Int J Obes. 2010;34(2):309-18.doi:10.1038/ijo.2009.236.
21. Shi SR, Gu H, Chang LL, Wang ZY, Tong HB, Zou JM. Safety evaluation of daidzein in laying hens: part I. Effects on laying performance, clinical blood parameters, and organs development. Food ChemToxicol. 2013;55:684-8. doi: 10.1016/j.fct.2013.01.009.
22. Sitohy M, Osman A, Gharib A, Chobert JM, Haertlé T. Preliminary assessment of potential toxicity of methylated soybean protein and methylated β-lactoglobulin in male Wistar rats. Food ChemToxicol. 2013;59:618-25. doi: 10.1016/j.fct.2013.06.026.
23. Sugiura K, Sugiura M. Soy sauce allergy. J EurAcadDermatolVenereol. 2010;24(7):852-5. doi: 10.1111/j.1468-3083.2009.03512.x.
24. Taramarcaz P, Hauser C, Eigenmann PA. Soy anaphylaxis. Allergy. 2001;56(8):792. doi: 10.1034/j.1398-9995.2001.00211.x.
25. Krishnan HB, Kim WS, Jang S, Kerley MS. All three subunits of soybean beta-conglycinin are potential food allergens. J Agric Food Chem. 2009;57(3):938-43. doi: 10.1021/jf802451g.
26. การปลูกถั่วเหลือง กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงกระเษตรและสหกรณ์. [อินเตอร์เนต]. 2564 [เข้าถึงเมื่อ 1 พ.ย. 2564]. เข้าถึงได้จาก: https://ssnet.doae.go.th/wp-content/uploads/2015/12/%E0%B8%96%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87.pdf
P021_(18).xlsx